, , ,

ที่ตั้ง

       ตำบลเขานิเวศน์ อำเภอเมืองระนอง

       ละติจูดที่ 9° 57′ 3″เหนือ   ลองจิจูดที่ 98° 38′ 24″ตะวันออก

       เดินทางตามเส้นทางหลวงหมาย 4 เข้าเมืองระนอง   เมื่อถึงสี่แยกโรงพยาบาลให้เลี้ยวซ้าย   ตรงไปจนถึงพระราชวังรัตนรังสรรค์จำลอง เลี้ยวขวาไปประมาณ 50 เมตร ถึงสามแยกให้เลี้ยวขวาอีกครั้งเพื่อขึ้นเนิน อาคารศาลากลางจังหวัดระนองหลังเก่าอยู่บนเนินเขาทางซ้ายมือของพระราชวังฯ

ประวัติและความสำคัญ

       ในคราวที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  รัชกาลที่ 5 เสด็จฯ  เลียบแหลมมลายู  พ.ศ. 2433    พระยารัตนเศรษฐี (คอซิมก๊อง) ได้จัดสร้างพลับพลาที่ประทับไว้บนยอดควนกลางเมืองระนอง สมัยนั้นเรียกกันว่า “พระที่นั่ง”  พระองค์ได้ประทับแรมวันที่ 23 – 25 เมษายน  และพระราชทานนามว่า “รัตนรังสรรค์” ต่อมาเมื่อครั้งพระยาดำรงสุจริตมหิศรภักดี (คออยู่หงี่ ณ ระนอง) เป็นเจ้าเมืองระนอง ได้ร่วมกับสมุหเทศาภิบาลมณฑลภูเก็ต ดัดแปลงพระที่นั่งรัตนรังสรรค์เสียใหม่ให้เป็นรูปเรือนตึก 2 ชั้น ก่อสร้างเสร็จเมื่อ พ.ศ. 2444 แล้วใช้อาคารหลังนี้เป็นศาลากลางเมืองระนอง

       พ.ศ. 2452 สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ซึ่งต่อมาคือรัชกาลที่ 6 เสด็จฯ ประพาสหัวเมืองปักษ์ใต้ ประทับแรม ณ พระที่นั่งรัตนรังสรรค์  โดยทางเมืองระนองได้ย้ายที่ทำการศาลากลางออกไปชั่วคราว  เมื่อเสด็จฯ อีกครั้งหนึ่งใน พ.ศ. 2460 ก็ประทับแรม ณ พระที่นั่งนี้เช่นกัน 

       พ.ศ. 2471 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯ รัชกาลที่ 7 เสด็จฯ ประพาสเมืองระนอง วันที่ 29 มกราคม ประทับแรม ณ พระที่นั่งรัตนรังสรรค์

       พ.ศ. 2507 จังหวัดระนองรื้อถอนอาคารศาลากลางหลังนี้เพื่อก่อสร้างอาคารศาลากลางจังหวัดใหม่อีกครั้งหนึ่ง

       แม้รูปแบบอาคารจะเปลี่ยนไปแต่ประวัติศาสตร์สถานที่ยังคงอยู่  กรมศิลปากรจึงประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน

       พ.ศ. 2545 จังหวัดระนองได้มีโครงการก่อสร้างพระที่นั่งรัตนรังสรรค์จำลองขึ้นบนเนินชั้นล่างถัดลงมาจากศาลากลาง  ต่อมา พ.ศ. 2547  คณะกรรมการบริหารพระที่นั่งรัตนรังสรรค์จำลองได้มีมติให้เรียกชื่อใหม่ว่า “พระราชวังรัตนรังสรรค์ (จำลอง)”      

       จังหวัดระนองได้ก่อสร้างอาคารศาลากลางหลังใหม่ที่ถนนเพชรเกษม บริเวณบ้านพรรั้ง ตำบลบางริ้น เมื่อแล้วเสร็จก็ย้ายหน่วยราชการทั้งหมดออกไปยังที่ใหม่ใน พ.ศ. 2555 ส่วนศาลากลางหลังเดิมยังคงรักษาไว้ในฐานะโบราณสถานที่อยู่ในพื้นที่ประวัติศาสตร์สำคัญของจังหวัด

       กรมศิลปากรขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานตามประกาศวันที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2520

       ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเล่ม 94 ตอนที่ 39 วันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2520

, , ,
0 0 votes
Article Rating
guest
0 Comments
Inline Feedbacks
View all comments
0
Would love your thoughts, please comment.x
()
x